สกสค. เตรียมความพร้อมงานกฐินพระราชทาน ประจำปี 2568 วัดธรรมามูล จังหวัดชัยนาท

สำนักงานคณะกรรมการ สกสค. จัดประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานกฐินพระราชทาน ของสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ประจำปี 2568 เพื่อหารือร่วมกันถึงขั้นตอน พิธีการต่าง ๆ ในงานถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ของสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2568 ณ วัดธรรมามูล ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท โดยมี พระเทพปริยัติวัชรสุธี เจ้าอาวาสวัดธรรมามูล เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้องด้านต่าง ๆ ของวัด และจังหวัดชัยนาท

          ดร.พีระพันธ์ เหมะรัต เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. มอบหมายให้ ดร.สุชาติ กลัดสุข รองเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย ดร.พัฒนาพร ไทยพิบูลย์ ศึกษาธิการจังหวัดชัยนาท รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน สกสค. จังหวัดชัยนาท บุคลากรสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชัยนาท และบุคลากรในส่วนงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม อีกทั้ง ผู้แทนจากวัฒนธรรมจังหวัดชัยนาท  คณะทำงานฝ่ายเตรียมความพร้อมพิธีการ และจัดสถานที่ ร่วมประชุมครั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ณ วัดธรรมามูล ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท

          วัดธรรมามูล เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดชัยนาท เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนมาอย่างยาวนาน สร้างอยู่บนไหล่เขา ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เขตอำเภอเมืองชัยนาท เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น สันนิษฐานว่า เป็นวัดที่กษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย พระมหาธรรมราชา หรือ พระร่วง เป็นผู้สร้าง มีหลักฐานคือ พระพุทธรูปบูชาบรรจุอยู่ในองค์พระเจดีย์ที่พังลงมา และพระเครื่อง (พระร่วง) เป็นจำนวนมาก อีกอย่างหนึ่งมีใบเสมาคู่ เป็นศิลปะสมัยอยุธยาเป็นหลักฐาน สำหรับพระพุทธรูปนั้นเป็นศิลปะสมัยสุโขทัย ซึ่งผู้สร้างวัดได้นำมาประดิษฐานไว้ในทะเบียนวัด ได้ระบุประมาณ พ.ศ. 2120 เป็นปีที่สร้างวัด กำหนดไว้เพื่อความสมบูรณ์ เดิมวัดนี้ตั้งอยู่บนที่ราบตรงกลางแม่น้ำเจ้าพระยาในปัจจุบัน เมื่อแม่น้ำได้เซาะตลิ่งพังเข้ามาจึงย้ายเสนาสนะมาจัดสร้างขึ้นบนไหล่เขาอันเป็นที่ตั้งอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าวัดธรรมามูลถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์นำไปใช้ในพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา และยังเชื่อกันว่าวิหารบนยอดเขาธรรมามูลเป็นที่ปลุกเสกน้ำมนต์ให้แก่ทหารในยามออกศึกสงครามบริเวณลานกว้างบนยอดเขาใช้เป็นที่รวมพลของทหาร และเป็นที่ตรวจการณ์ความเคลื่อนไหวของข้าศึกในสมัยนั้น

ภายในพระวิหารประดิษฐาน “หลวงพ่อธรรมจักร” ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ เป็นศิลปะประยุกต์สมัยเชียงแสนตอนปลายถึงสุโขทัยตอนต้นผสมกับสมัยอยุธยา พุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ประทับยืนบนฐานรูปดอกบัว พระหัตถ์ขวาทรงยกขึ้นเสมอพระอุระ หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ มีความสูง 4.5 เมตร กลางฝ่าพระหัตถ์มีรอย “ธรรมจักร” ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว คาดกันว่าเป็นความคิดของช่างยุคนั้นที่ตั้งใจสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ให้มีเครื่องหมายแห่ง “มหาปุริสลักษณะ” หรือลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการตามคติอินเดีย ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนของชาวจังหวัดชัยนาทเป็นอย่างยิ่ง

กัลยรัตน์ : ข่าว/ภาพ/อินโฟ/อินโฟกราฟิก
กทส.สอ.สกสค.